อย่าเป็น 'เรา' นักเลย
พระอาจารย์คงฤทธิ์
เราคงเคยรู้สึกกลัดมัน บุ่มบ่าม คึกคะนอง ขุ่นเคือง โมโหโทโส ท้อแท้ น้อยอกน้อยใจ เหงาหงอยสร้อยเศร้า หดหู่ ฟุ้งซ่าน ลังเล วิตกกังวล ตกลงใจอะไรไม่ได้ มากบ้างน้อยบ้าง ตามสถานการณ์ สภาพแวดล้อมของอารมณ์ในขณะนั้นๆ จนทำให้รู้สึกอีดอัดไม่สบายใจ แล้วเลยพลอยทำให้กายไม่สบายไปด้วยก็มี แต่ยังดีที่ว่าอารมณ์และอาการเหล่านั้นมันมีเวลาพัก มีเวลาหาย แม้ว่าบางครั้งดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้หนีไปไหน
หากเพียงสังเกตให้ดีๆ เราจะเห็นว่ามันไม่ได้อยู่กับเราตลอดเวลา ทั้งนี้เป็นเพราะว่าธรรมชาติของจิตของเราที่เป็นเจ้าบ้าน เจ้าเรือนนั้นมีปกติสว่าง ผุดผ่อง เป็นปภัสสร ที่เปลี่ยนสภาพไปเพราะอิทธิพลของอารมณ์ที่เป็นอาคันตุกะ แขกผู้ผ่านมาเยี่ยมเยือน
หากเราไม่ทัดทาน ปล่อยให้อิทธิพลของอาคันตุกะ ชักนำเราอยู่เป็นประจำ จิตเจ้าบ้านก็จะเคยชินกับอาการเหล่านั้นกลายเป็นอนุสัย มากเข้าก็เป็นอาสวะ อาบเอิบ ไหลซึมออกมาทางกริยาท่าทาง การพูด การคิด จนดูเหมือนว่าเรามีความเป็นธรรมดาอย่างนั้นๆ ไม่อยู่ในภาวะ ผุดผ่อง ปภัสสรอย่างที่ควรเป็น ยิ่งหากว่าเราเองไปเชื่อเสียเองว่า “ตัวเรา” เป็นอย่างนั้น ก็เหมือนกับเราเสียบ้าน เสียเรือนให้แขกทที่เราปล่อย หรือเชิญให้มาเยือนบ่อยๆ คงต้องมีบ้างที่เราก็เห็นว่าอารมณ์ที่คุ้นเคยนั่นแหละเป็นเหตุให้เราทุกระทม กระนั้นเราก็ยังพร้อมที่จะยึดอยู่ ถืออยู่ ยอมว่าเราเป็นของเราอย่างนั้น ซึ่งจะว่ากันจริงๆ แล้วหากมันทุกข์ มันลำบากอย่างนั้น ไม่ต้องเป็น “ตัวเรา” ในแบบนั้นบ้างก็น่าดี หากจะต้องเป็นสักแบบ ก็ควรจะเลือกเป็นเราที่ดีกว่านี้สักหน่อย น่าจะดีกว่าเป็นไหนๆ
"จิตของเราที่เป็นเจ้าบ้าน เจ้าเรือนนั้นมีปกติสว่าง ผุดผ่อง เป็นปภัสสร ที่เปลี่ยนสภาพไปเพราะอิทธิพลของอารมณ์ที่เป็นอาคันตุกะ แขกผู้ผ่านมาเยี่ยมเยือน" สรุปความจาก: อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต ปณิหิตอัจฉวรรค ที่ 5 เล่มที่ 20 ข้อที่ 50-51 — องฺ.เอกก. (ไทย) 20/50-51
เราก็เห็นอยู่ว่าจิตของเรานี้เปลี่ยนอารมณ์ได้ ฝึกให้ดีขึ้นก็ยังได้ อีกทั้งเราเองก็มีศักยภาพที่จะเปลี่ยน จะฝึกได้กันทุกคน ฝึกให้ดีได้จนทำให้ธรรมชาติอันปภัสสรอยู่เป็นเจ้าเรือนตลอดเวลาก็มีโอกาสเป็นไปได้ ยิ่งเราเป็นคนหัวใหม่ มีการศีกษา รักอิสระ ไม่ชอบอยู่ใต้อำนาจใครๆ แล้วทำไมเรายังยอมทน สิโรราบเป็นทาสของอารมณ์ที่ทำให้เราอึดอัด ขัดเคือง ทุกข์ทน น้ำตาร่วง ซ้ำแล้วซ้ำอีกอยู่เล่า
ที่เพิ่งผ่านมา กิจกรรม
ตั้งวัดอยู่ในประเทศที่ไม่เป็นเมืองพุทธเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องมีส่วนเกี่ยข้องกับสังคมนั้นๆ อย่างกว้างขวาง
ในเดือนสิงหาคม เทศบาลชิปท์เว็ทได้ติดต่อถามมาว่าทางวัดสนใจจะจัดนิทัศกาลเล็กๆ ในลานเทศบาลหรือเปล่า ทางเราเห็นว่าเป็นโอากาสที่ดีที่เราจะได้แนะนำชีวิตการเป็นอยู่ของพระสงฆ์ให้ชุมชนท้องถิ่นได้ทราบ จึงได้ตกลงเข้าร่วม นับว่าน่ายินดียิ่งที่ได้เห็นคณะสงฆ์และญาติโยมทำงานร่วมกันโดยไม่มีความรู้สึกถือเนื้อถือตัว และนิทัศกาลได้รับความสนใจและเสียงตอบรับในทางที่น่ายินดี ท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานกิจกรรมได้จากที่นี่
ในเดือนตุลาคม พระอาจารย์คงฤทธิ์ และท่านมเหสโก ไปที่โรงเรียนมัธยมที่เมืองอาชิม เพื่อพูดคุยกับนักเรียนเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ธรรมะและชีวิตของพระสงฆ์ นักเรียนให้ความสนใจดีมาก ถามปัญหาหลายเรื่องตั้งแต่เรื่องการเป็นอยู่ทั่วไป ไปจนถึง “หนทางการบรรลุพระนิพพาน”
อาทิตย์ต่อมามีนักเรียน 35 คนจากโรงเรียนมัธยมจากเมืองเฟรดดิกสตาด์ มาเยี่ยมที่วัด
สานสัมพันธ์ในนอร์เวย์
ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม คณะสงฆ์จากวัดป่าชิปท์เว็ทได้เดินทางไปยังวัดไทยนอร์เวย์ในโอกางานประชุมประจำปีของคณะสงฆ์ไทยในยุโรป
สองสัปดาห์ต่อมา ท่าน เตชสาโร และ ท่านมเหสโก ได้เดินทางไปยังวัดอุบลมณี ที่กริสมู เพื่อกราบนมัสการ หลวงพ่อคำผอง โดยก่อนออกเดินทางพวกท่านยังไม่ทราบเลยว่ารุ่งขึ้นจะเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงพ่อ โอกาสนี้นับว่าเป็นช่วงเวลาที่น่ารื่นรมย์ในการได้สานสัมพันธ์กับหมู่คณะทั้งในส่วนคณะสงฆ์และฆราวาส
สานสัมพันธ์ในยุโรป
ในเดือนกันยายน พระอาจารย์คงฤทธิ์ ได้เดินทางไปร่วมงานอุปสมบทของ ท่านฐิตเปโม ที่วัดสันตจิตตาราม ประเทศอิตาลี และอยู่ที่นั่นเป็นเวลาหลายวัน
ในช่วงปลายเดือนตุลาคม พระอาจารย์คงฤทธิ์ ได้รับนิมนต์เดินทางไปยังนครเจนีวา หนึ่งวัน จากนั้นท่านได้เดินทางไปยัง วัดธัมปาละ เมือง Kandersteg ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เพื่อร่วมกิจกรรมกับคณะสงฆ์และญาติโยมที่นั่นในโอกาสงานเทศกาลกฐิน
งานจิตอาสา
อนุโมทนากับทุกท่านที่มาร่วมงานจิตอาสา (dugnad) ปี 2024! ทางวัดรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างยิ่งต่อเหล่าญาติธรรมของวัดที่สละทั้งเวลาและแรงกายมาช่วยกัน แม้จะประกาศข่าวออกไปกระชั้นชิดมากก็ตาม
บรรยากาศตลอดทั้งวันเต็มไปด้วยความยินดี มิตรภาพ และสมัคสมานสามัคคีงานต่างๆ ลุล่วงไปด้วยดี ตั้งแต่การจัดระเบียบโรงนา การขนย้ายฟืนไปยังโรงกุฏิพระสงฆ์ เพื่อให้มีพร้อมรับมือกับฤดูหนาวที่กำลังจะมาถึง
ความทุ่มเทและความร่วมแรงร่วมใจกันของทุกท่านมีความหมายอย่างยิ่ง ทำให้วัดได้รับการดูแลอย่างดีและพร้อมสำหรับฤดูกาลข้างหน้า ขออนุโมทนากับทุกท่านที่ร่วมสละเวลา ทักษะ และพลังงานอันเป็นกุศลเพื่อสนับสนุนกิจกรรมสำคัญของวัดครั้งนี้
ทางยินดีที่จะได้ต้อนรับทุกท่านอีกในโอกาสหน้าพร้อมความหวังว่าจิตเสียสละของงานจิตอาสาจะยังคงสร้างพลังกุศลให้เราได้มาร่วมกันอีกด้วยความมีไมตรีจิตช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ท่านผู้เพิ่งมาเยือน
พระอาจารย์อหิงสโก เจ้าอาวาสวัดจิตตวิเวก พร้อมกับ ท่านอเนโช และ ท่านติตถญาโณ ได้มาเยือนวัดโลกุตตรวิหารที่ ชิปท์เว็ท ในช่วงปลายเดือนตุลาคม
นับเป็นการมาเยือนนอร์เวย์และวัดป่าชิปท์เว็ทครั้งแรกของพระอาจารย์ ในเย็นวันที่ท่านมาถึง ซึ่งเป็นคืนวันจันทร์ พระอาจารย์ได้แสดงธรรมในหัวข้อ “ความเป็นหนึ่งเดียว” โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญที่ว่าวัดป่าชิปท์เว็ทเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายวัดสายปฏิบัติที่เชื่อมโยงทั้งในยุโรปและทั่วโลก
พระอาจารย์อมโร เจ้าอาวาสวัดอมราวดี สหราชอาณาจักร ได้มาเยี่ยมวัดของเราเป็นเวลาสองสามวันในช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน การได้ต้อนรับพระอาจารย์ทำให้รู้สึกปราบปลื้มเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันปฏิบัติธรรมประจำวันสุดท้ายของปีและงานผ้าป่าเทศกาลกฐิน
ออกพรรษา
การเข้าพรรษาสิ้นสุดลงในวันที่ 18 ตุลาคม ตามธรรมเนียมแล้วเมื่อสิ้นสุดพรรษา คณะสงฆ์มักจะเริ่มธุดงค์หรือเดินทางไปยังวัดต่างๆ เพื่อการปฏิบัติธรรมในสถานที่ใหม่
ผ้าป่า (เทศกาลกฐิน)
ในวันที่ 3 พฤศจิกายน ญาติธรรมหลายท่านของวัดโลกุตตรวิหารได้มารวมตัวกันในโอกาสงานผ้าป่าเทศกาลกฐิน ซึ่งเป็นประเพณีที่คณะญาติโยมผู้เกี่ยวข้องกับวัดจัดพิธีถวายผ้าในช่วงกฐินกาล เพื่อเฉลิมฉลองการออกพรรษา งานนี้เป็นงานที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความปิติ โดยมีพระอาจารย์อมโร มาเป็นประธาน ร่วมอนุโมทนา
ท่านผู้เดินทางไป
ท่านเตชสาโร ได้เดินทางกลับวัดสติวงศาราม เมืองเบอร์มิงแฮม สหราชอาณาจักร ในวันที่ 12 ตุลาคม โดยท่านจำเป็นต้องออกเดินทางก่อนออกพรรษาเล็กน้อย เนื่องจากเข้านอร์เวย์ด้วยการยกเว้นวีซ่า
ท่านมเหสโก จะออกเดินทางในวันที่ 7 พฤศจิกายน โดยในช่วงแรกท่านจะไปยังประเทศไทยเป็นเวลาสองเดือน จากนั้นจะเดินธุดงค์จากฝรั่งเศษไปอังกฤษต่อไป
ท่านผู้จะมาเยือน
พระอาจารย์มหาบิ๊ก พระไทย พรรษา 13 จะมาเยี่ยมพวกเราตั้งแต่วันที่ 12 ถึง 26 พฤศจิกายน ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าจิตตวิเวก หลายคนอาจจำท่านได้จากการมาเยี่ยมเราในครั้งก่อนในเดือนพฤศจิกายน 2023
ท่านมันตโน พระชาวสวีเดน พรรษา 5 จะมาเยี่ยมวัดชิปท์เว็ท เป็นเวลาสองสัปดาห์ โดยมีกำหนดท่านจะเดินทางมาถึงในวันที่ 2 ธันวาคมนี้
กิจกรรมที่จะมีขึ้น
วันส่งท้ายปีเก่า
เพื่อเป็นการเปลี่ยนผ่านจากปี 2024 สู่ปี 2025 อย่างมีสติและประกอบด้วยกุศล ทางวัดขอเชิญชวนญาติธรรมของวัดป่าชิปท์เว็ท มาร่วมกันในวันที่ 31 ธันวาคม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมโปรดดูที่นี่
กิจกรรมของวัด
วัดเปิดให้เยี่ยมชมตามปกติทั้งแบบไปเช้าเย็นกลับและพักค้างคืน ท่านสามารถร่วมกิจวัตรประจำวันของทางวัดและช่วยเหลือตามที่ท่านสามารถทำได้
นอกจากนี้ ยังมีโอกาสที่บุคคลทั่วไปสามารถมาร่วมในโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น “การทำวัตรสวดมนต์เย็นวันจันทร์” และ “วันพระ” (วันตามจันทรคติ)
ในวันพระ ปกติจะมีการแสดงธรรมหลังจากการสวดมนต์เย็น รวมถึงโอกาสในการรับ ไตรสรณคมน์ และ ศีล 8 อีกทั้งคณะสงฆ์จะปฏิบัติสมาธิ โดยนั่งสมาธิหรือเดินจงกรมจนถึงเที่ยงคืน ทุกท่านสามารถเข้าร่วมได้ตามสะดวก
การสวดมนต์เย็นวันจันทร์ (19:00-20:15) เป็นโอกาสสำหรับผู้สนใจที่จะเข้าร่วมสวดมนต์เย็นและนั่งสมาธิ หลังจากนั้นมีเครื่องดื่มบริการในเรือนพัก พร้อมโอกาสในการสนทนาธรรมกับพระสงฆ์ในเรื่องการปฏิบัติธรรมและหัวข้ออื่นๆ
วันพระ
8 พฤศจิกายน – วันพระขึ้น 8 ค่ำเดือนสิบสอง
15 พฤศจิกายน – วันพระขึ้น 15 ค่ำเดือนสิบสอง
23 พฤศจิกายน – วันพระแรม 8 ค่ำ เดือนสิบสอง
30 พฤศจิกายน – วันพระแรม 15 ค่ำ เดือนสิบสอง
8 ธันวาคม – วันพระขึ้น 8 ค่ำเดือนอ้าย
15 ธันวาคม – วันพระขึ้น 15 ค่ำเดือนอ้าย
23 ธันวาคม – วันพระแรม 8 ค่ำ เดือนยี่
29 ธันวาคม – วันพระแรม 8 ค่ำ เดือนยี่
ข้าได้เห็นเจ้าแล้ว
พระเตชสาโร
สมัยยังเป็นเด็กอยู่ในกรุงเทพฯ ได้รับแรงบันดาลใจจากภาพยนตร์จากต่างประเทศหลายเรื่อง แต่เรื่องที่ยังคงติดอยู่ในใจคือ การ์ตูนของวอลต์ดิสนีย์ “Brother Bear” ฉากตื่นเต้นคือฉากสุดท้ายเกิดขึ้นบนธารน้ำแข็งยักษ์ที่ล้อมรอบด้วยแสงเหนือ ได้บอกกับตัวเองในตอนนั้นว่า “วันหนึ่งจะต้องได้เห็นแสงเหล่านี้ด้วยตาตนเองให้ได้” ยิ่งได้เห็นภาพถ่ายและรู้เรื่องแสงเหนือมากขึ้น ก็เห็นว่านี่คือสิ่งที่งดงามที่สุดในท้องฟ้าเท่าที่สายตามนุษย์จะมองเห็นได้
ย้อนกลับไปในเดือนธันวาคม 2015 ที่เป็นฤดูหนาวสุดท้ายในฐานะฆราวาส อีกไม่นานกำลังจะก้าวเข้าสู่เส้นทางชีวิตของพรรชิต มันรู้สึกเหมือนกับคนที่มีคนบอกว่าเขามีเวลาเหลือไม่กี่เดือนที่จะมีชีวิตอยู่ จึงทำให้ครุ่นคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่ยังไม่เคยได้ทำ คิดไปมากมาย หลายเรื่อง และถึงต้องได้เขียนรายการสิ่งที่หวังจะทำก่อนตาย ด้วยหวังว่าบางเรื่องจะได้ทำก่อนบวช แต่สำหรับคนที่กำลังก้าวสู่เส้นทางธรรม ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ไปสัมผัสกับสิ่งนั้นในช่วงเวลาสุดท้ายของการเป็นฆราวาส ยิ่งไม่มีเงินทอง ไม่มีคนรู้จักในประเทศที่สามารถเห็นแสงเหนือได้ แม้จะได้เดินทางไปจริง ก็ไม่อาจรับประกันว่าจะได้เห็นมันตามที่หวัง
ในปี 2015 เป็นปีที่วงโคจรสุริยะกำลังอยู่ในรอบ 11 ปี หมายความว่าแสงเหนือจะมีกำลังแรงและมองเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้น และสามารถจะเห็นได้ในทางเหนือของสก็อตแลนด์ด้วย อาศัยข้อมูความรู้นั่นจึงออกเดินทางไปยัง Aberdeenshire สก็อตแลนด์ หวังจะได้เห็นแสงเหนือกับตาของตัวเอง มันจะเป็นโอกาสสุดท้ายก่อนที่จะบวช จึงตกลงใจให้การเดินทางนี้เป็นภารกิจ
เริ่มการเดินทางด้วยการขับรถเป็นเวลาแปดชั่วโมงจาก Birmingham ประเทศอังกฤษ ไปยังเมือง Aberdeen สก็อตแลนด์ ต่อจากนั้นยังจะต้องขับต่อไปอีกชั่วโมงครึ่งเพื่อไปยังเมือง Banff แต่ได้รับคำแนะนำว่าไม่ควรจะไปคืนนั้น ควรพักผ่อนก่อนสักคืน กลับเป็นว่าคืนนั้นเองเป็นคืนเดียวที่แสงเหนือปรากฏ ก็เลยพลาดโอกาสได้เห็นเลย ตลอดการเดินทางต่อจากนั้น ก็ได้แต่ขับรถฝ่าความมืดไปตามเส้นทางที่เงียบสงบของที่ราบสูงสก็อต ในคืนสุดท้ายถูกตำรวจเรียกเตือนเพราะขับรถเร็วเกินกำหนด แต่นั่นก็ไม่ได้ทำละความตั้งใจ จนขับแหกโค้ง และรถก็พุ่งเข้าชนต้นไม้ แต่ยังนับว่าโชคดีที่ไม่ได้บาดเจ็บหรือถึงตาย เพราะต้นไม้ไม่ใหญ่อะไรจึงทำรถหยุดลงโดยไม่มีความเสียหายมากนัก จำต้องเดินทางกลับและถึงเบอร์มิงแฮมในวันสิ้นปี และไม่สำเร็จเป้าหมายที่ตั้งใจไว้แต่ก็ทำใจยอมรับผลของความพยายามนั้น รู้ดีว่าความปรารถนาที่อยากเห็นแสงเหนือนั้นแรงกล้าเพียงใด แม้จะผ่านสถานการณ์เสี่ยงอันตรายถึงชีวิตเพื่อให้ได้เห็นมันก็ตาม
ปีนี้ เดิมทีวางแผนว่าจะไปจำพรรษาที่เมืองไทย แต่เพราะเพิ่งได้รับหนังสือเดินทางเพียงไม่ไม่กี่วันก่อนพรรษาจะเริ่ม แม้จะยังพอมีเวลาเดินทางได้ แต่ราคาตั๋วเครื่องบินไปไทยนั้นแพงมากเพราะว่าเป็นการเดินทางแบบนาทีสุดท้าย อาจารย์คงฤทธิ์แนะนำให้ไปนอร์เวย์ ซึ่งราคาย่อมเยากว่าและยังกุฏิว่างให้จำพรรษาได้ จึงคว้าโอกาสนั้นไว้และเดินทางมาจำพรรษาที่วัดโลกุตตรวิหารภายใต้การดูแลของพระอาจารย์คงฤทธิ์ รัตนวัณโณ
ก็ไม่เคยมานอร์เวย์มาก่อนที่จะมาจำพรรษานี้ เคยแต่ได้ยินเรื่องราวของที่นี่มากมาย วัดโลกุตตรวิหารตั้งอยู่ในเมืองเล็กๆ ชื่อเมืองชิปท์เว็ท ทางตะวันออกเฉียงใต้ของนอร์เวย์ ดูจากตำแหน่งที่ตั้งแล้วไม่คาดหวังว่าจะได้เห็นแสงเหนือ เพราะในฤดูร้อนมีเพียงไม่กี่ชั่วโมงที่ท้องฟ้ามืด แต่ในคืนหนึ่งของเดือนสิงหาคม หลังจากได้ตรวจดูพยากรณ์แสงอโรร่าได้พบว่าอาจมีโอกาสเห็นได้ในช่วงที่ดึกมาก
มันคือแสงเหนือ! ต้องบอกอาจารย์คงฤทธิ์ให้ทราบว่าได้เห็นแสงเหนือแล้ว
ขณะที่เดินกลับกุฏิคืนนั้นก็มองขึ้นไปบนท้องฟ้าเหมือนทุกคืน ได้เห็นเส้นสีขาวนุ่มนวลเหมือนกับลำแสงทอดผ่านท้องฟ้า เลยหยิบกล้องขึ้นมาลองถ่าย ตอนกำลังถ่ายภาพกลับเปลี่ยนเป็นสีเขียว มันคือแสงเหนือ! ต้องบอกอาจารย์คงฤทธิ์ให้ทราบว่าได้เห็นแสงเหนือแล้ว จึงไปที่กุฏิของท่าน เราทั้งสอใช้เวลาถ่ายภาพแสงเหล่านั้น มันเป็นครั้งแรกของข้าพเจ้าและเป็นครั้งแรกที่วัดของเราได้บันทึกภาพแสงเหนือไว้
หลังจากได้เห็นเป็นครั้งแรก ก็เริ่มติดตามการพยากรณ์แสงเหนือว่ามีข้อมูลใหม่หรือเปล่าอย่างสม่ำเสมอ เตรียมตัวพร้อมสำหรับค่ำคืนที่เหน็บหนาวนอกกุฏิและพยายามถ่ายภาพท้องฟ้า แสงเหนือปรากฏแล้วก็หายไป ส่องสว่างไสวแล้วก็เลือนลางจางหายไป ตั้งแต่อยู่ในนอร์เวย์ ได้ถ่ายภาพแสงเหนือทั้งหมดหกครั้ง ในหกคืนจากแปดสิบห้าวัน ได้เห็นแสงเหนือ จะเรียกว่าโชคดีหรือเปล่า?
ก็ไม่ใช่ว่าคนที่โชคดี แต่เป็นการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ
พระพุทธองค์ตรัสถึงอิทธิบาท 4 ว่าเป็นธรรมอันเป็นฐานแห่งความสำเร็จ คือ ฉันทะ (ความอยาก เจตนาจะทำ) อันได้แก่ความสนใจในแสงเหนือทีพัฒนามาตั้งแต่วัยเยาว์ วีริยะ (ความพยายาม) ความพยายามมุ่งมั่นในการติดตามการพยากรณ์ ถ่ายภาพ และอดทนตื่นอยู่ในยามค่ำคืน จิตตะ (ความมีใจฝักไฝ่) คือไม่เพียงแต่มีความพยายาม แต่เป็นการทำด้วยสติและ สมาธิ และวิมังสา (การพิจารณา ลองผิดลองถูก) หลังจากได้เห็นผลพยากรณ์ของแสงอโรร่า พยากรณ์อากาศ และภาพถ่ายทดสอบ ได้พิจราณาว่าอันไหนจะเป็นสิ่งที่ให้ได้ผลที่ดีที่สุด จากการดำเนินการตามลำดับนี้จึงเชื่อว่าก็ไม่ใช่ว่าคนที่โชคดี แต่เป็นการปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธองค์ซึ่งนำไปสู่ความสำเร็จ
ได้ใช้เวลา 85 วันในเมืองชิปท์เว็ท ประเทศนอร์เวย์ ได้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ และพบผู้คนใหม่ๆ มากมายตลอดเวลา ความทรงจำทั้งหมดที่ได้สร้างขึ้นในช่วงเข้าพรรษานี้ถูกเก็บไว้อย่างแนบแน่น และจะเป็นความทรงจำที่จะจดจำไว้เสมอ แต่คงไม่มีโอกาสได้สัมผัสสิ่งเหล่านี้ หากไม่ได้รับการสนับสนุนและกำลังใจจากผู้อื่น จึงต้องขอขอบคุณทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง
จากใจ พระเตชสาโร
ร่วมมีส่วนร่วมกับวัด
ที่วัดป่าชิปท์เว็ท ทุกอย่างตั้งแต่การสอนธรรมะ ไปจนถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในวัด เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้ใช้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งคงอยู่ได้ด้วยความเอื้อเฟื้อของผู้สนับสนุนของวัด ก่อให้เกิดความสัมพันธ์ที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน โดยที่ฆราวาสผู้มีจิตศรัทธา ให้การอุปถัมภ์วัดด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค ทำให้วัดดำรงอยู่ได้
ส่วนคณะสงฆ์ให้ประโยชน์สุขแก่ฆราวาสโดยการสอนศีลธรรม และดูแลวัด ทำให้วัดคงอยู่อย่างถาวรและเป็นประโยชน์แก่ทุกท่าน การมีมิตรไมตรีต่อกันเช่นนี้ เป็นเสมือนการดูแลซึ่งกันและกัน ด้วยความไว้วางใจ เคารพรักและศรัทธา
ททมาโน ปิโย โหติ สตํ ธมฺมํ อนุกฺกมํ ผู้ให้ทานย่อมเป็นที่รักของชนเป็นอันมาก ชื่อว่าดำเนินตามธรรมของสัปบุรุษ ทานานิสังสูตร อังคุตตรนิกาย — องฺ.ปญฺจก. (ไทย) 22/35
หากท่านประสงค์จะให้การสนับสนุนวัดป่าชิปท์เว็ท ท่านสามารถอ่านรายละเอียดได้จากลิงค์นี้