จดหมายข่าว — สิงหาคม 2568

วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 ซึ่งตรงกับวันเสาร์ที่ 23 สิงหาคม 2568 ถือเป็นวันกึ่งกลางของช่วงเข้าพรรษา นั่นหมายความว่าเหลือเวลาอีกประมาณ 6 สัปดาห์ก็จะถึงวันปวารณา ซึ่งเป็นวันเพ็ญเดือน 11 ที่จะสิ้นสุดการจำพรรษา แม้แต่ในชีวิตสมณะ เวลาดูเหมือนจะผ่านไปอย่างรวดเร็วอย่างน่าประหลาดใจ มาดูกันว่ามีกิจกรรมอะไรที่เพิ่งเกิดขึ้นบ้างที่วัดป่าชิปท์เว็ท

กิจกรรมที่ผ่านมา

มูลนิธิพระไตรปิฎกสากล

ระหว่างวันที่ 6 ถึง 11 พฤษภาคมที่ผ่านมา ทางวัดรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับคณะมูลนิธิพระไตรปิฎกสากล นำโดยท่านผู้หญิงวราพร ปราโมช ณ อยุธยา การมาเยือนครั้งนี้มีจุดประสงค์หลักคือการมอบ พระไตรปิฎกฉบับสัชฌายะ เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (โน้ตเสียงปาฬิ) ให้แก่ห้องสมุดมหาวิทยาลัยออสโล ในวันที่ 7 พฤษภาคม ในระหว่างที่พำนักอยู่ คณะได้อธิบายถึงความพิเศษของพระไตรปิฎกฉบับนี้อย่างละเอียด และพวกเรายังได้มีโอกาสฝึกอ่านอักษรพิเศษที่ใช้ในพระไตรปิฎกฉบับสัชฌายะด้วย

พระอาจารย์การุณิโก

ระหว่างวันที่ 27 ถึง 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา พระอาจารย์การุณิโก ซึ่งเป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดจิตตวิเวก (ประเทศอังกฤษ) ได้เดินทางมาเยี่ยมวัดชิปท์เว็ทเป็นครั้งแรก การมาเยือนในครั้งนี้มีขึ้นหลังจากที่ท่านได้ไปอบรมการปฏิบัติธรรมร่วมกับท่านอเนโชและท่านอาจารย์ติตถญาโณที่ประเทศสวีเดน

ซุ้มโรงทาน

ในปีนี้ วันที่ 1 มิถุนายน คณะญาติโยมของวัดได้ร่วมกันจัดตั้งซุ้มโรงทานขึ้นเป็นครั้งแรกในงานวันหมู่บ้านชิปท์เว็ท เราได้นำผัดไทยและข้าวเหนียวมะม่วงไปแนะนำให้ชาวบ้านได้รู้จัก แม้ว่าสภาพอากาศจะมีฝนตก แต่บรรยากาศก็เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเป็นกันเอง ด้วยความช่วยเหลือและกำลังใจที่ส่งต่อกันจากญาติธรรมรุ่นสู่รุ่น

หลวงพ่อปสันโน

ระหว่างวันที่ 8 ถึง 14 มิถุนายนที่ผ่านมา ทางวัดรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับ หลวงพ่อปสันโน ผู้เป็นศิษย์ต่างชาติอาวุโสรุ่นที่สองของหลวงปู่ชา หลวงพ่อได้กล่าวชมป่าไม้ในบริเวณวัดว่าทำให้ท่านนึกถึงวัยเด็กที่แคนาดา เราได้อัปโหลดไฟล์เสียงพระธรรมเทศนาที่หลวงพ่อแสดงไว้ในระหว่างการมาเยือนครั้งนี้ ซึ่งสามารถหาฟังได้ที่นี่ (รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับพระธรรมเทศนาจะกล่าวถึงต่อไป)

พระอาจารย์เขมสิริ — ปฏิบัติธรรมภาคฤดูร้อน

ระหว่างวันที่ 17 ถึง 29 มิถุนายนที่ผ่านมา พระอาจารย์เขมสิริ อดีตเจ้าอาวาสวัดธัมมปาละ (ประเทศสวิตเซอร์แลนด์) ได้มาเป็นผู้นำการปฏิบัติธรรมแบบเข้าปิดวาจาประจำปีเป็นเวลา 9 วัน ซึ่งมีผู้เข้าร่วมจำนวนมาก ผู้ปฏิบัติธรรมจะพักในป่าตลอดระยะเวลาการเข้ากรรมฐาน และปฏิบัติตามตารางการเดินจงกรมและนั่งสมาธิตลอดทั้งวัน ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่แสดงความชื่นชมในความเมตตาและอารมณ์ขันของพระอาจารย์เขมสิริ และพวกเราก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านเมตตารับนิมนต์มาเป็นผู้นำการปฏิบัติธรรมในปีนี้ หากท่านใดสนใจเข้าร่วมการปฏิบัติธรรมนี้ในปีหน้า โปรดติดตามข่าวสารได้จากช่องทางนี้ (หรือสมัครรับจดหมายข่าวของเราโดยใช้แบบฟอร์มที่อยู่ด้านล่างสุดของหน้าแรก) ทางวัดจะประกาศข้อมูลเพิ่มเติมในช่วงต้นปี 2026

การเดินทางมาจำพรรษา

ท่านพระอาจารย์อาทิจโจเดินทางมาเพื่อเข้าร่วมการปฏิบัติธรรมภาคฤดูร้อนกับพระอาจารย์เขมสิริ และอยู่จำพรรษาที่วัดป่าชิปท์เว็ทเป็นเวลา 3 เดือน พระอาจารย์กัมภีโรก็เดินทางมาถึงก่อนที่การจำพรรษาจะเริ่มขึ้นเช่นกัน

การปฏิบัติธรรมภาคภาษาไทย — วัดอมราวดี

พระอาจารย์คงฤทธิ์ได้นำการปฏิบัติธรรมภาคภาษาไทยเป็นเวลา 5 วัน ณ วัดอมราวดี ประเทศอังกฤษ ระหว่างวันที่ 25 ถึง 30 กรกฎาคม สามารถฟังไฟล์บันทึกเสียงจากการปฏิบัติธรรมได้ที่นี่ สิ่งที่น่าประทับใจสำหรับผู้เข้าร่วมคือ การได้มีโอกาสร่วมพิธีถวายภัตตาหารเนื่องในวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 75 ปีของหลวงพ่อปสันโน ในวันที่ 26 กรกฎาคม และวันคล้ายวันเกิดครบรอบ 91 ปีของหลวงพ่อสุเมโธ ในวันที่ 27 กรกฎาคม

การจำพรรษา

ปีนี้ วันเข้าพรรษาตรงกับวันที่ 10 กรกฎาคม พวกเราได้จัดงานพิธีอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษาขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฎาคม ในพิธีดังกล่าว พระอาจารย์กัมภีโรและท่านอาจารย์คงฤทธิ์ได้แสดงพระธรรมเทศนา ซึ่งสามารถหาฟังไฟล์บันทึกเสียงได้ที่นี่ นอกจากนี้ พวกเรายังได้ห่มผ้าพระเจดีย์ด้วยผ้าผืนใหม่ด้วย

หลังจากการเข้าพรรษา คณะสงฆ์ได้เดินทางไปกราบสักการะหลวงพ่อที่วัดไทยนอร์เวย์อย่างเป็นทางการ และต่อมาก็ได้เดินทางไปกราบสักการะพระอาจารย์วิกรานต์ ที่วัดสันตินิวาส เมือง Rygge ด้วยเช่นกัน

---

การปล่อยวางเป็นวิมุตติแห่งใจ

พระอาจารย์คัมภีโร

ในเมตตาสหคตสูตร (จากพระไตรปิฏก สังยุตตนิกาย เล่มที่ 19 ข้อ 235) ว่าด้วย ว่าด้วยจิตมีเมตตา แสดงให้เห็นถึงขอบเขตแห่งพรหมวิหารทั้ง 4 ว่าคือ การปล่อยวางอันเป็นเจโตวิมุตติ (ความหลุดพ้นแห่งใจ) และคุณสมบัติที่สิ่งเหล่านั้นจะบรรลุถึงในที่สุด:

• จิตที่มี เมตตา ย่อมเป็นจิตที่งดงาม

• จิตที่มี กรุณา ย่อมมีพื้นที่อันไร้ขอบเขตที่จะโอบอุ้มสรรพสิ่ง

• จิตที่มี มุทิตา ย่อมไม่หดหู่ถดถอยด้วยการสร้างขอบเขตว่า "สิ่งนี้เราจะไม่รับรู้"

• และจิตที่มี อุเบกขา ย่อมเป็นจิตที่ไม่มีสิ่งใดสามารถเข้ามารบกวนให้หวั่นไหวได้

การปล่อยวางทางจิตด้วยเมตตา มีความงดงามเป็นเลิศ... การปล่อยวางทางจิตด้วยกรุณา มีอากาสานัญจายตนะ (ความไม่สิ้นสุดแห่งอวกาศ) เป็นเลิศ... การปล่อยวางทางจิตด้วยมุทิตา มีวิญญาณัญจายตนะ (ความไม่สิ้นสุดแห่งวิญญาณ) เป็นเลิศ... การปล่อยวางทางจิตด้วยอุเบกขา มีอากิญจัญญายตนะ (ความว่างเปล่า) เป็นเลิศ...

เมื่อเราปฏิบัติธรรมด้วยมุทิตา เราสามารถน้อมนำคำแนะนำของพระสารีบุตรในทุติยอาฆาตปฏิวินยสูตร (จากพระไตรปิฏกอังคุตตรนิกาย เล่มที่ 22 ข้อที่ 162) ว่าด้วยอุบายกำจัดอาฆาตที่ให้มุ่งจิตไปที่คุณความดีและปรีชาของผู้อื่น ดุจนักเดินทางผู้กระหายน้ำอย่างยิ่ง ที่จะซาบซึ้งใจกับน้ำเพียงน้อยนิดที่ขังอยู่ในรอยเท้าโค

ดังเรื่องที่ว่า: "เมื่อมีน้ำเพียงเล็กน้อยในรอยเท้าโค และมีชายผู้หนึ่งซึ่งเร่าร้อนด้วยความร้อน เหงื่อท่วมตัว อ่อนเพลีย ตัวสั่น และกระหายน้ำ เดินทางผ่านมา เขาคิดว่า 'ที่นี่มีน้ำในรอยเท้าโคเพียงเล็กน้อย ถ้าเราพยายามจะดื่มโดยใช้มือหรือขันตัก น้ำก็จะถูกรบกวน ขุ่นมัว และไม่เหมาะแก่การดื่ม จะเป็นอย่างไรหนอถ้าเราจะย่อตัวลงแล้วซดมันแบบโค แล้วจึงเดินทางต่อไป' "

กิจกรรมในวัด

พระอาจารย์คงฤทธิ์ได้ใช้เวลาอยู่ที่โรงเครื่องมือช่างอย่างขยันขันแข็ง ในเดือนก่อน [ลิงก์ไปรูปภาพ] เพื่อทำราวแขวนผ้าไตรที่สวยงามอย่างประณีตสำหรับกุฏิของพระสงฆ์ [ลิงก์ไปผลงานเสร็จแล้ว] มีแขกผู้มาเยือนระยะสั้นที่มีความชำนาญด้านงานไม้ ได้ช่วยเก็บรายละเอียดและติดตั้งผลงานอย่างดียิ่ง

ส่วนพระอาจารย์คัมภีโรยังคงสอนภาษาบาลีให้กับพระภิกษุสงฆ์เป็นประจำทุกสัปดาห์จากประเทศนอร์เวย์ ซึ่งมีพระสงฆ์ซึ่งอยู่ไกลถึงทวีปอเมริกาเหนือเข้าร่วมเรียนทางออนไลน์ด้วย

ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา พระภิกษุสงฆ์ได้ผลัดเปลี่ยนกันไปปฏิบัติภาวนาเข้ากรรมฐานเป็นเวลาสองสัปดาห์ ในช่วงเวลาดังกล่าว พวกท่านจะปลีกตัวออกจากกิจวัตรของหมู่คณะ และงดเข้าร่วมการทำวัตรสวดมนต์หรือการอนุโมทนาให้พรในโรงฉันเพื่อมุ่งมั่นในการปฏิบัติธรรมเป็นส่วนตัว หากท่านเห็นพระภิกษุรูปใดนั่งรออย่างสงบอยู่ด้านนอกระหว่างการถวายภัตตาหาร หรือยืนอยู่ภายในศาลาโรงฉัน แต่มีบาตรสะพายไว้ที่บ่า เป็นไปได้ว่าท่านกำลังอยู่ในช่วงปฏิบัติกรรมฐาน ปลีกวิเวกของท่านอยู่

กรรมฐานวันสุดสัปดาห์

กรรมฐานภาคภาษาไทยที่วัดระหว่างวันที่ 8-10 สิงหาคม มีญาติโยมเดินทางมาจากสวิสเซอร์แลนด์ เยอรมัน และนอร์เวย์ เข้าร่วมด้วยกันทั้งหมด 11 ท่าน เหมาะสมกับสถานที่พักสำหรับแขกของวัดพอดี บางท่านแม้จะไม่เข้าใจภาษาแต่ก็ตั้งใจมาร่วมเพื่อได้บรรยากาศกรรมฐาน ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์แปล บาลี-ไทย รวมไปถึงการอบรมกรรมฐาน

ทั้งนี้ก็มีเสริมด้วยการนำนั่งสมาธิเป็นภาษาฝรั่ง และแปลสรุปบางส่วนเป็นภาษาอังกฤษบ้าง เพื่อให้ทุกท่านที่เข้าร่วมได้รับประโยชน์สูงสุด

ทั้งก่อน และหลังกรรมฐาน ผู้ที่เดินทางมาเข้าร่วมปฏิบัติ ได้ช่วยพัฒนาวัด ทำความสะอาดลานหิน ตัดหญ้า เดินป่าร่วมกัน ทำเกิดความรู้สึกถึงมิตรภาพเป็นอย่างดี

กรรมฐานภาคภาษาอังกฤษ —วัดไทยนอร์เวย์

ใน่ช่วงวันที่ 22-24 สิงหาคม พระอาจารย์คงฤทธิ์ได้รับนิมนต์จากวัดไทยนอร์เวย์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของคณะสงฆ์ไทยในทางเหนือของทวีปยุโรป เพื่อเป็นผู้นำการปฏิบัติธรรมแบบเจริญสติในภาษาอังกฤษ อย่างเป็นทางการ เป็นครั้งแรก แม้ว่าจะเป็นการปฏิบัติที่ไม่ใช่แบบอยู่พักปฏิบัติค้างคืนที่วัด (ผู้เข้าร่วมกลับบ้านในตอนเย็น) แต่ก็นับเป็นโอกาสที่มีคุณค่าในการเชื่อมสัมพันธ์กับผู้ฏิบัติผู้มาใหม่ และแบ่งปันธรรมะ และการทำวัตรสวดมนต์ บาลี-อังกฤษ กับผู้ที่ไม่เคยศึกษาพระพุทธศาสนามาก่อน ท่านสามารถชมรูปภาพบางส่วนจากงานได้ที่นี่ [ลิงก์]

---

การออกบิณฑบาตและการถวายภัตตาหาร

พระภิกษุสงฆ์ยังคงออกบิณฑบาตสัปดาห์ละสองครั้ง ที่เมืองซาร์ปสบอร์กและเฟรดริกสาด์ และเราขออนุโมทนากับร้านอาหารไทยมี ร้านข้าวไทย, วิถีไทย, และ โรยัลไทย เทคอเวย์สำหรับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องและการปวารณานิมนต์ให้มาอีก ส่วนท่านอาทิจโจก็ได้ออกเดินบิณฑบาตที่เมือง Skiptvet เมื่อไม่นานมานี้ และหวังว่าจะสามารถทำเช่นนี้ได้อย่างสม่ำเสมอมากขึ้น และท่านก็รู้สึกยินดีที่ได้รับบิณฑบาตจากชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งถวายด้วยความมีน้ำใจ

หากท่านต้องการสนับสนุนวัดด้วยการนำอาหารมาถวายทั้งมื้อ หรือมาปรุงอาหารในครัวของวัด ท่านสามารถแจ้งให้เราทราบผ่านแบบฟอร์มนี้ เพื่อที่เราจะได้จองในตารางครัว เนื่องจากปัจจุบันไม่มีปะขาว (อนาคาริกะ) เราจึงต้องอาศัยเรื่องการขบฉันจากแขกและผู้มาเยือนเท่านั้น เนื่องจากพระวินัยของพระภิกษุไม่อนุญาตให้พระสงฆ์ปรุงอาหารหรือจัดอาหารจากที่ญาติโยมเก็บไว้ในโรงครัวด้วยตนเอง

---

ไฟล์เสียง: พระธรรมเทศนาและบทสวดมนต์

เราได้เริ่มอัปโหลดพระธรรมเทศนาบางส่วนลงในโฟลเดอร์ กูเกิลไดรว์ นี้แล้ว ขอเรียนเชิญทุกท่านบันทึกที่อยู่นี้ไว้ เพื่อดาวน์โหลดไฟล์เสียงพระธรรมเทศนาล่าสุดของเรา เราจะทยอยอัปโหลดไฟล์บทสวดมนต์ลงในโฟลเดอร์นี้เช่นกัน หากท่านต้องการสวดมนต์ตามที่บ้านเพื่อฝึกฝน ท่านสามารถดาวน์โหลดไฟล์ PDF ของ หนังสือสวดมนต์เล่มที่ 1 และ เล่มที่ 2 ซึ่งเป็นหนังสือที่ใช้ที่นี่และในวัดสาขาของหลวงพ่ออาจารย์ชาในประเทศตะวันตก

---

กิจกรรมที่กำลังจะมาถึง

งานลงแรงร่วมกัน "ดุกนาด"

สำหรับกิจกรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น งาน Dugnad (งานลงแรงร่วมกัน) ประจำปีของเราจะจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน และเรายินดีต้อนรับทุกท่านมาร่วมงานได้ตลอดทั้งวัน

สามีจิกรรมพระมหาเถระ—วัดอุบลมณี เมืองกรีมู

และต่อจากนั้น, จากวันที่ 22 ถึง วันที่ 28 กันยายน พระสงฆ์จะเดินทางไปกราบหลวงพ่อคำผอง ที่วัดอุบลมณี ใกล้เมือง เบอร์เก้น เพื่อกราบนมัสการพระมหาเถระ (ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า "การทำสามีจิกรรม" ที่เป็นประเพณีที่ปฏิบัติกันในช่วงเข้าพรรษา)

งานทอดผ้าป่า—เทศกาลกฐิน

สุดท้ายนี้ งานทอดผ้าป่าเทศกาลกฐิน ของเรามีกำหนดจัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 12 ตุลาคม รายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งตามลิงค์นี้เมื่อใกล้ถึงวันงาน เนื่องด้วยวัดของเรามีพระจำพรรษาเพียง 3 รูป ไม่ครบองค์ที่จะจัดงานกฐินได้ ซึ่งต้องมีพระภิกษุอย่างน้อย 5 รูป ที่จำพรรษาอยู่ด้วยกันครบไตรมาส ด้วยเหตุนี้ เราจึงจัดงานทอดผ้าป่า เทศกาลกฐินแทน

---

ตามรู้ หรือ ตามรู้สึก?

พระอาจารย์คงฤทธิ์

เรามีความรู้เวลาสัมผัสกับสิ่งกระทบ ทำให้เกิดความรู้สึกขึ้นตามมา อันไหนถูกใจเราก็ชอบ ไม่ถูกใจก็ไม่ชอบ ฟังดูเป็นเรื่องปกติ เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อมันธรรมดาก็เกิดความเคยชิน จนลืมไม่ได้ใส่ใจ รู้สึกอย่างไรก็ทำไปตามความรู้สึกเหล่านั้น อาจจะมองเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็เพราะเรื่องที่ดูว่าธรรมดาและเล็กน้อยอันนี้แหละ มันดึง มันผลักให้เราทำ หรือไม่ทำ วิ่งตาม วิ่งหนี มาตลอดชิวิตของเรา ตามปริมาณที่เรายึดถือไว้ในจิตของเรา การดำเนินทางจิตของคนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ที่จิตยังไม่ได้ฝึก ก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับระดับการศึกษา อาชีพ หน้าที่การงาน เพศ หรือวัย หากการกระทำตามแรงผลักนั้นๆ ไม่ได้มีความควบคุม หรือสำรวมระวังให้อยู่ในขอบเขตที่พอดีตามมาตรฐานที่สังคมยอมรับ ก็จะเป็นเรื่องที่ไม่น่าดู ไม่งดงาม จนถึงน่าอับอาย น่ารังเกียจ

การรู้จักควบคุม สำรวมระวัง ให้อยู่ในกรอบทางกาย วาจา แม้ใจยังคิด ยังอยากกระทำตามแรงผลักนั้น แต่ความเสียหายก็ไม่กระทบสังคมหรือบุคคลอื่นๆ ยิ่งสำรวมระวัง ข่มจิตได้ แรงผลักเหล่านั้นก็ไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับใจของตน

“อาตาปี สมฺปชาโน สติมา, วิเนยฺย โลเก อภิชฌา-โทมนสฺสํ มีความเพียรเผากิเลส มีสัมปชัญญะ มีสติ ถอนความพอใจ และความไม่พอใจ ในโลกออกเสียได้” สติปัฏฐานสูตร พระไตรปิฏก (ไทย) เล่มที่ 12 ข้อที่ 131 (ม.มู 12/131)

หากสติปัญญาเปรี่ยมล้นบริบูรณ์ หยุดเสียได้ตั้งแต่ต้นทางเมื่อถูกสิ่งกระทบ แม้จะเกิดความรู้สึก แต่ความชอบ ไม่ชอบก็ไม่ได้เป็นแรงผลักที่สำคัญให้ต้องวิ่งหนี วิ่งตาม ยิ่งมีความเพียร มีสติ มีความรู้สึกตัวทั่วพร้อม เพื่อละเพื่อถอนแรงผลักนี้ได้มากเท่าไร การดำเนินกิจการในชีวิตของคนๆ มีอะไรต้องทำก็ทำไปตามสติ ตามปัญญาให้ถูกต้องกับสิ่งที่ควรจะเป็น การดำเนินชีวิตของเขานั้นก็ไม่กัดตัวเขาเอง ไม่ทำให้ชีวิตเขานั้นเดือดร้อน เพราะไม่ได้ทำตามความรู้สึก แต่ทำตามความรอบรู้ และสติปัญญา